-
หากพูดถึง ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ผิวหน้า เราคงเคยได้ยินคำว่า Cleanser กับ Cleansing เคยสงสัยไหมว่า Cleansing VS Cleanser ต่างกันอย่างไร เรา ควรใช้อย่างไหนดีกว่ากัน? และ ตัวไหนที่เหมาะกับเรา? เรามีข้อมูลดี ๆ มาฝากคลีนซิ่ง(cleansing) คือ ผลิตภัณฑ์ ที่ใช้ เช็ด ทำความสะอาด ผิวหน้า โดย การ เช็คเอาสิ่งสกปรกและเครื่องสำอางให้หลุดออกไป เหมาะสำหรับคนที่แต่งหน้าและลงรองพื้นหนัก ๆ แนะนำให้ใช้ Cleansing เช็ดทำความสะอาดผิวหน้าก่อน ล้างหน้า ด้วย โฟมล้างหน้า ตามปกติ เหตุผล คือ ลองพื้นที่หนาช่วยปกปิดผิวหน้าให้เรียบเนียน มีส่วนของผสมของ โพลีเมอร์ และ เคมี makeup ยิ่งเป็นชนิดที่กันน้ำได้ โฟมล้างหน้าธรรมดา เอาไม่อยู่แน่นอน และที่สำคัญหากทำความสะอาดผิวหน้า ไม่สะอาดพอ โพลีเมอร์ และ เคมี makeup ก็จะไปอุดตัน รูขุมขน ทำให้เกิด สิวอุดตัน และ สิวเสี้ยน ดังนั้น cleansing จึงจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้รูขุมขนอุดตันในท้องตลาดมี Cleansing อยู่หลายประเภท โดยรวมก็จะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ๆ1. Cleansing Water ส่วนผสมหลัก คือน้ำ เหมาะสำหรับ คนที่มีผิวมัน และผิวผสม เมื่อเช็ดแล้ว ก็จะให้ความรู้สึกว่าซึมเร็วและไม่มันข้อดีคือ ซึมเร็ว และ หน้าไม่มัน ข้อเสียคือ เช็ดเครื่องสำอางออกไม่ค่อยหมดต้องเช็ดหลายรอบ แต่ บางแบรนด์ก็ทำออกมาได้ดีมาก สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ดี2. Cleansing Oil ส่วนผสมหลัก คือน้ำมัน เหมาะสำหรับ คน ผิวแห้ง โดยเฉพาะ การทำความสะอาดมาสคาร่า และ ลิปแมท แนะนำให้ใช้ Cleansing oil เช็ดออกก่อน ซึ่งจะทำความสะอาดได้ดีกว่าสูตรน้ำข้อดี คือ เช็ดทำความสะอาดผิวหน้าได้เกลี้ยง ข้อเสีย คือ ต้องล้างด้วยโฟมล้างหน้าให้สะอาด เพื่อลดความมันอีกขั้นตอนนึง Cleansing oil สามารถทดแทนได้ด้วยการเช็ดด้วย baby oil ซึ่งเช็ดได้ดีเหมือนกันและราคาไม่แพง3. Cleansing lotion เนื้อโลชั่น ในบางแบรนด์ก็มีส่วนผสมของน้ำนม เหมาะสำหรับ คนผิวแห้ง และ ผิวผสมข้อดี ทำให้ ผิวนุ่ม ชุ่มชื่นและเช็ดเมคอัพได้ดี สูตรนี้เป็นที่นิยมสำหรับสาวๆ ข้อเสีย ในบางแบรนด์ผสมน้ำหอม อาจก่อให้เกิดการแพ้4. Cleansing gel เนื้อเจลเช็ดทำความสะอาด ตอนนี้ก็เป็นที่นิยม โดยเฉพาะสูตรว่านหางจระเข้ เหมาะสำหรับ คนผิวมัน ผิวผสมและผิวแพ้ง่าย ที่จะคล้าย ๆ กับ สูตรน้ำ แต่พัฒนามาในรูปแบบของเจล เพื่อให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นข้อดี ช่วยกระชับผิว ข้อเสีย ในบางรายผิวจะแห้ง และ ผิวไม่นุ่มคลีนเซอร์ (cleanser) เป็นผลิตภัณฑ์ ทำความสะอาดผิวหน้า แบบปกติสำหรับคนที่ไม่แต่งหน้า หรือ แต่งหน้า บางๆ เหมือนการทำความสะอาดหน้า ด้วย โฟมล้างหน้า สบู่ล้างหน้า หรือ เจลล้างหน้า ช่วย ขจัด สิ่งสกปรกและลดความมันบนใบหน้า แต่ไม่สามารถเช็ดและทำความสะอาดเครื่องสำอางหรือเมคอัพ ที่ กันน้ำ ได้ ซึ่ง cleanser นี้ เหมาะสำหรับ คนที่ไม่ได้แต่งหน้าจัด ไม่ได้ใช้รองพื้นหนา ๆ เพียงแค่การล้างหน้าด้วย Cleanser ก็เพียงพอแล้ว แต่ปัญหาของผู้ใช้ cleanser อย่างเดียวก็มี คือ การเกิด สิวเสี้ยน และ สิวอุดตัน โดยเฉพาะ บริเวณ รอบ ๆ ริมฝีปาก นั่นเพราะ cleanser จะช่วยทำความสะอาดผิวชั้นนอก ผิวที่เสื่อมสภาพ ไม่ได้ ถูกกำจัดออก แนะนำให้ สครับหน้า อย่างน้อย สัปดาห์ละ 1 ครั้ง การสครับผิวหน้า จะช่วย ขจัดเซลล์ผิวเก่า ที่ โฟมล้างหน้าขจัดออกไม่หมดแต่ยุคนี้อะไรที่สามารถใช้ได้หลากคุณประโยชน์นั้นย่อมคุ้มค่า สามารถรวมครบจบหนึ่งขั้นตอนภายในหลอดเดียวได้ นั้นก็คือดีพ คลีนซิ่ง โฟม (deep cleansing foam) เป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า มาในรูปแบบของโฟมล้างหน้า แต่จะช่วย ทำความสะอาดผิวหน้า อย่างล้ำลึก ช่วยล้างเมคอัพ ไม่ว่าจะ แต่งหน้าหนัก หรือ แต่งหน้าเบา ได้ในตัวเดียวกันข้อดี ดีพ คลีนซิ่ง โฟม คือนำ คลีนซิ่ง (Cleansing) และ คลีนเซอร์ (Cleanser) มารวมกัน ช่วยล้างทำความสะอาดเครื่องสำอางได้อย่างสะอาดหมดจด หรือจะพูดง่ายๆ คือ ซึ่ง ดีพ คลีนซิ่ง โฟม (deep cleansing foam) นั้นเหมาะสำหรับสายขี้เกียจ เพราะสวยครบจบในขั้นตอนเดียวกัน ข้อเสีย ไม่สามารถเช็ดล้างมาสคาร่าที่กันน้ำออกได้ดีเหมาะสำหรับ ทุกสภาพผิว ไม่ว่า จะเป็น ผิวแห้ง ผิวมัน หรือ ผิวผสม ช่วยให้ผิวสะอาดนุ่ม ไม่รู้สึกแห้งตึง ผิวจึงแลดู กระจ่างใสและสดชื่นขึ้น เพื่อเตรียมผิวให้สะอาดและพร้อม สำหรับการบำรุงในขั้นตอนต่อไป
